มอยเจอร์ไรเซอร์ผิวมัน ที่คุณต้องลอง หลายคนมักมีความเชื่อว่า คนผิวมันไม่ควรที่จะใช้มอยเจอร์ไรเซอร์ แต่รู้หรือไม่ว่า มอยเจอร์ไรเซอร์สามารถใช้ได้ทั้งผิวผสม ผิวแห้ง รวมถึงคนที่ผิวมันอีกด้วย สำหรับใครที่ผิวมันแล้วกำลังมองหาตัวช่วยที่จะทำให้คุณหน้าใส ไร้สิว ที่สำคัญยังช่วยให้ริ้วรอยให้คุณดูหน้าเด็กลงอีกด้วย ซึ่งตัวมอยเจอร์ไรเซอร์จะมีหลายรูปแบบ ควรเลือกให้เหมาะสมกับสภาพผิวหน้าของเรา วันนี้ทางบทความเราก็แนะนำ มอยเจอร์ไรเซอร์ราคาสบายกระเป๋า ตอบโจทย์ทุกคนอย่างแน่นอน ใครพร้อมจะหน้าใส บอกลาผิวแห้ง ตามมาดูกันเลย

มอยเจอร์ไรเซอร์ผิวมัน รีวิวไอเทมที่ควรมี หน้าใสไร้สิวด้วย 3 มอยเจอร์ไรเซอร์ราคาหลักร้อย

มอยเจอร์ไรเซอร์ผิวมัน ที่คุณควรมี มอยเจอร์ไร้เซอร์ผิวมัน 2023 ที่ฮิตที่สุดในตอนนี้ เรารวบรวมมาให้แล้ว ใช้ดียอดขายมากที่สุดในตอนนี้ และที่สำคัญผลลัพธ์ดีจนต้องบอกต่อเลยทีเดียว อย่ารอช้าไปดูกันเลยดีกว่า

1. มอยเจอร์ไรเซอร์ผิวมันcerave

สำหรับใครที่ผิวมัน ขอแนะนำมอยเจอร์ไรเซอร์ตัวนี้เลย ของ CERAVE รีวิวเยอะมากที่สุดในตอนนี้ ด้วยรูปแบบเนื้อมอยเจอร์ไรเซอร์เป็นแบบ โลชั่นเหมาะสำหรับผิวแพ้ง่าย อ่อนโยนต่อผิว คนผิวมันก็สามารถที่จะใช้ได้ ต้องบอกเลยว่าตัวมอยเจอร์ไรเซอร์ของ CERAVE สามารถป้องกันแดดได้อีกด้วย ราคา 560 บาท ปริมาณอยู่ที่ 52 มิลลิลิตร

2. มอยเจอร์ไรเซอร์ผิวมันเกาหลี ต้อง COSRX Oil Free Ultra Moisturizing Lotion เท่านั้น

เป็นมอยเจอร์ไรเซอร์อีกตัวที่ขอแนะนำสำหรับคนผิวมัน ขอบอกเลยว่าเป็นตัวดังเลยทีเดียว ด้วยเนื้อเป็นแบบโลชั่น เหมาะกับผมที่แพ้ง่ายมากๆ รวมถึงคนที่ผิวมัน เป็นสิวก็สามารถใช้ได้ จุดเด่นของตัวนี้คือ มีส่วนผสมของวิตามิน C แล้วยังใช้ได้กับทุกสภาพผิวอีกด้วย ราคา 630 บาท

3. มอยเจอร์ไรเซอร์ ผิวมัน 7-11 อย่าง Jenny Sweet Yogurt Night Serum 

มอยเจอร์ไรเซอร์ที่เหมาะกับทุกสภาพผิว จุดเด่นคือราคาถูกมาก แต่ผลลัพธ์คุ้มค่ามาก ช่วยเรื่องริ้วรอบ เพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวของคุณ ตัวเนื้อมอยเจอร์ไรเซอร์เป็นแบบเนื้อเจล มีกลิ่นด้วยทุกคน ออกเป็นนมเปรี้ยวเลย ราคาอยู่ที่ 29 บาท

มอยเจอร์ไรเซอร์ผิวมันใครที่ผิวมันเป็นสิวง่าย ต้องรู้ วิธีเลือกมอยเจอร์ไรเซอร์ยังไง ให้เข้ากับผิว

มอยเจอร์ไรเซอร์ผิวมันยอดฮิตอย่างมากในตอนนี้ ซึ่งรีวิวมอยเจอร์ไรเซอร์ผิวมัน pantip เยอะมาก แต่ปัญหาที่พบมากที่สุดในตอนนี้ คือ ไม่รู้ว่าควรจะเลือกใช้มอยเจอร์ไรเซอร์รูปแบบไหนดี สำหรับคนที่ผัวมัน แนะนำให้ใช้มอยเจอร์ไรเซอร์แบบเหลว ไม่ว่าจะเป็นเนื้อโลชั่นหรือเนื้อที่เหลว จะสามารถใช้ได้ สำหรับใครที่ผิวมัน มีความสนใจแล้วไม่รู้จะหาซื้อที่ไหน ไม่รู้จะใช้แบบไหน สามารถเลือกใช้ที่เราแนะนำได้เลย

มอยเจอร์ไรเซอร์7-11 ตัวบำรุงผิวหน้าที่หาซื้อได้ง่ายมากที่สุดในตอนนี้ หลายคนน่าจะคุ้นเคยกับมอยเจอร์ไรเซอร์กันอยู่แล้ว สำหรับใครที่ยังไม่เคยใช้มาก่อน มอยเจอร์ไรเซอร์ช่วยให้ผิวของคุณชุ่มชื่นมากขึ้น ผิวได้รับการบำรุงมากขึ้น ทำให้หน้าของคุณใส ไม่มีสิวนั้นเอง ซึ่งบทความเราขอบอกต่อของดีในร้านสะดวกซื้อใกล้บ้านคุณอย่าง 7-11 มีทุกอย่างแล้ว ที่นี่ที่เดียว ซึ่งมอยเจอร์ไรเซอร์ใน 7-11 มีเยอะมาก แต่ทางเราขอแนะนำตัวดัง ตัวดียอดฮิตมาฝาก อย่ารอช้าไปดูกันเลยดีกว่า

มอยเจอร์ไรเซอร์7-11 แบบซองรวม 3 ของดี หน้าใสง่าย ราคาสบายกระเป๋า

มอยเจอร์ไรเซอร์ 7-11 ราคาหลักสิบสุดปัง พกพาสะดวก ไปไหนก็พกได้ตลอดต้องที่นี่เลย ขอแนะนำเจอร์ไรเซอร์ 7-11 pantip แนะนำมากที่สุด มอยเจอร์ไรเซอร์ 7-11 แบบซอง และแบบหลอดไปดูกันเลย

1. Best Korea Aloe Vera Gluta Serum

มอยเจอร์ไรเซอร์สุดฮิตในปี 2565 อย่างเซรั่มว่านหางจระเข้ ที่ช่วยเรื่องผิวหมองคล้ำ ช่วยให้ผิวของคุณกระจ่างใสมากขึ้น ตัวเนื้อเป็นแบบเจล ลื่น ชุ่มชื่น ที่สำคัญมีกลิ่นหอมธรรมชาติอีกด้วย

ราคา 49 บาท  หาซื้อได้ที่ร้านสะดวกซื้อ 7-11 ทุกสาขา

2. Cerave moisturizing cream

สำหรับคนที่ผิวอ่อนแอ แพ้ง่าย ใครที่กำลังเจอปัญหาผิวที่แห้ง แนะนำตัวนี้ดีที่ในตอนนี้แล้ว มอยเจอร์ไรเซอร์ 7-11 cerave เป็นสูตรที่ไม่ผสมน้ำหอมอีกด้วย ที่สำคัญตอบโจทย์คนผิวแห้งไม่ไหว ราคาก็สบายกระเป๋าอีกด้วย

ราคา 189 บาท  หาซื้อได้ที่ร้านสะดวกซื้อ 7-11 ทุกสาขา

3. Srichand skin moisture burst gel cream

 มอยเจอร์ไรเซอร์เนื้อเจล ที่นิยมมากที่สุด มอยเจอร์ไรเซอร์ 7-11 ศรีจันทร์ เป็นมอยเจอร์ไรเซอร์ที่ไม่มีกลิ่น ไม่มีสี ช่วยเรื่องความชุ่มชื่น แล้วยังช่วยให้ผัวเรียบเนียนมากขึ้น อีกด้วย

ราคา 39 บาท  หาซื้อได้ที่ร้านสะดวกซื้อ 7-11 ทุกสาขา

มอยเจอร์ไรเซอร์7-11สำหรับคนแพ้ง่าย ไม่มีน้ำหอมผสม

มอยเจอร์ไรเซอร์ 7-11 สำหรับคนแพ้ง่ายต้องมาทางนี้แล้ว มอยเจอร์ไรเซอร์ 7-11 ผิวแพ้ง่าย ใครที่กำลังตามหาตัวช่วยสำหรับผิว ช่วยเรื่องความชุ่มชื่น แนะนำตัวนี้เลย BK Acne Expert Bright มอยเจอร์ไรเซอร์ 7-11 ไม่มีน้ำหอม ต้องตัวนี้เลย ช่วยเรื่องสร้างความชุ่มชื่นให้กับผัวของคุณ ที่สำคัญใครที่เป็นสิว ไม่ว่าจะสิวผดหรือสิวอักเสบ ผิวที่แพ้ง่าย ตัวนี้ถือว่าตอบโจทย์ที่สุด เป็น มอยเจอร์ไรเซอร์ 7-11 มีขายทุกสาขา และที่สำคัญ ช่วยลดรอยสิว รอยแดง รอยดำอีกด้วย ราคาแสนปัง

ราคา 49 บาท หาซื้อได้ที่ร้านสะดวกซื้อ 7-11 ทุกสาขา

hada labo skin plumping gel cream แบรนด์ที่โด่งดังมาจากญี่ปุ่นอย่างฮาดะลาโบะ ดังเรื่องการดูแลรักษาผิวอยู่แล้ว ซึ่งตัวครีมที่เราจะมาพูดถึงต้องบอกเลยว่าเหมาะกับคนที่กำลังตามหาผลิตภัณฑ์ของคนแพ้ง่าย สิวขึ้นง่าย ต้องบอกเลยว่าhada labo skin plumpinggelcreamเป็นตอบโจทย์คุณมากที่สุดในตอนนี้เลยทีเดียว

ด้วยส่วนประกอบของครีมต่าง ๆ ที่ช่วยลดสิวหรืออาการแพ้ง่ายของหน้าเรา ยังเสริมสร้างให้หน้าเราดูสุขภาพดีอีกด้วย และยังมีข้อดีอีกมาก ใครที่อยากดูรีวิวมากกว่านี้ ตามมาเลย

hada labo skin plumping gel cream รีวิวละเอียด ดียังไงทำไมคนใช้เยอะจนต้องบอกต่อ

hada labo skin plumping gelcreamครีมเจลชื่อดังของญี่ปุ่น ที่เป็นตัวช่วยเรื่องสิวดีที่สุดในตอนนี้ ใครที่แพ้ง่าย เป็นสิว และหน้าแห้งแนะนำตัวนี้เลยhada labo skin plumping gelcreamingredientsที่ช่วยให้คุณมั่นใจมากขึ้น งั้นเราไปดูกันเลยดีกว่า ว่าครีมดียังไงบ้าง

• เป็นสูตรอ่อนโยนสำหรับคนแพ้ง่าย ซึ่งตัวครีมเจลไม่มีแอลกอฮอล์หรือน้ำหอมอยู่เลย รวมถึงสีด้วย ทำให้ตัวครีมไม่มีกลิ่นนั้นเอง จากรีวิวผู้ใช้จริง hada labo skin plumping gel creamreviewจะไม่มีกลิ่น ทำให้ง่ายต่อการใช้งาน
• เหมาะสำหรับคนที่มีผิวหน้าที่แห้ง เพราะตัวhada labo skin plumping gel creamjapanese versionนั้นมีส่วนผสมที่ช่วยเพิ่มความอิ่มน้ำ ชุ่มชื่นให้กับผิวหน้าของเรา ทำให้หน้าที่แห้งกร้านมีชีวิตอีกครั้ง
• รอยสิว หรือสิวที่แพ้จากการอักเสบลดลงอย่างเห็นได้ชัด หลายคนเลือกใช้hada labo skin plumping gel creamfungal acneเพราะสามารถช่วยลดสิวได้ดีกว่าครีมแบรนด์อื่นหลายเท่า
• ไม่เหนียวเหนอะหนะ ซึมเข้าผิวเราได้เร็วกว่าตัวอื่นแน่นอน ทำให้หน้าได้รับความชุ่มชื่นเร็ว ตัวครีมมีความบางเบา ใครที่อยากได้ครีมที่เข้มข้นแต่บางเบาต้องตัวนี้เลย

“ฮาดะลาโบะสั่งซื้อที่ไหน” คลิกที่นี่

hada labo skin plumping gel creamถ้าอยากตำ หาซื้อที่ไหนได้บ้าง

สำหรับใครที่สนใจอยากจะลองใช้ รับรองว่าไม่ผิดหวัง ซึ่งhada labo skin plumping gel creamได้รีวิวจากเว็บ skincarisma รวมถึงhada labo skin plumping gel creamredditอีกด้วย รีวิวแน่นขนาดนี้ไม่มีผิดหวังแน่นอน ซึ่งใครที่สนใจสามารถหาซื้อได้ที่ แอปช้อปปิ้งออนไลน์  สามารถเข้าไปสั่งซื้อจับจองกันได้เลย หรือจะเข้าไปดูรีวิวฉบับปัง ๆ ก็มีให้อ่านอีกเพียบ ซึ่งไม่เพียงเท่านี้ ฮาดะลาโบะยังมีผลิตภัณฑ์ให้คุณได้เลือกอีกมากมาย อย่าลืมไปตำกันนะคะ เชื่อว่าทุกคนต้องชอบอย่างแน่นอน

ฟองน้ำแต่งหน้า ไอเทม หลักที่สาวหลาย ๆ คนต้องใช้ในการแต่งหน้าทุกครั้ง ซึ่งรู้หรือไม่ว่า เจ้าตัวฟองน้ำมีหลายประเภทมากไม่ว่าจะเป็นทรงไข่ ทรงแบน มีให้สาว ๆ เลือกใช้มากมาย แต่เชื่อเลยว่าสาว ๆ หลายคนน่าจะกังวลเรื่องนี้กันอย่างมาก ไม่รู้ว่าจะใช้ฟองน้ำยี่ห้อไหน หรือใช้แบบไหนถึงจะดี วันนี้เราจึงขนมาให้ทุกคน รวมรีวิวฟองน้ำแต่งหน้าทุกยี่ห้อที่ฮิตและดีที่สุดแหล่งปี พร้อมเกร็ดความรู้สำหรับสาวมือใหม่ที่ชอบใช้ฟองน้ำแต่งหน้า

ฟองน้ำแต่งหน้า ราคาสบายกระเป๋า ใช้ยี่ห้อไหนดีที่สุด รวมฟองน้ำยอดฮิตที่ต้องตำ

ฟองน้ำแต่งหน้าสำหรับสาวกที่ชอบใช้ฟองน้ำต้องมาดู ซึ่งต้องบอกเลยว่ามีมากมายหลายประเภทมาก ไม่ว่าจะยี่ห้อหรือรูปแบบของฟองน้ำ เราได้รวบรวมฟองน้ำแต่งหน้ายี่ห้อไหนดี การันตีโดยชาว pantip มาฝากรับรองว่าดีทุกยี่ห้อแน่นอน อย่ารอช้าไปดูกันเลย

• ฟองน้ำแต่งหน้าCute Press Beautiful All in One Blender

แนะนำตัวแรกเลยของ Cute Press นั้นเอง ซึ่งบอกเลยว่าดีจนต้องบอกต่อ ด้วยตัวฟองน้ำพอดีมือและยังมี 2 หัวให้เลือกใช้ในฟองน้ำ 1 อัน ซึ่งประกอบไปด้วยหัวปลายที่ตัดและหัวกลม เพียงมีฟองน้ำตัวนี้ก็แต่งหน้าออกมาสวยจบในไอเทมตัวเดียว ราคา 239 เท่านั้น

• ฟองน้ำแต่งหน้า7 11 สายประหยัดราคาสุดปัง

สายประหยัดและเน้นสะดวก แนะนำฟองน้ำแต่งหน้าทรงไข่ของ Joyous เลยค่ะทุกคน ราคาหลักสิบเท่านั้น สามารถซื้อได้ที่ 7-11 ทุกสาขาเลย ที่สำคัญใช้งานง่าย เกลี่ยง่ายมาก ขนาดไม่ใหญ่กำลังเหมาะกับหน้า

• ฟองน้ำไข่ยักษ์ของ Jovina

มาถึงฟองน้ำยอดฮิตอย่าง ฟองน้ำ Jovina รีวิวกันเยอะมาก ของเขาดีจริงไม่ว่าใครใช้ต้องถูกใจแน่นอน ด้วยตัวเนื้อฟองน้ำนิ่ม เกลี่ยง่ายจับถนัด สามารถใช้ได้ทุกรูปทรงหน้าเลย ราคาอยู่ที่ 250 บาทเท่านั้นทุกคน ถ้าได้ลองใช้แล้ว ถูกใจและคุ้มแน่นอน

• ฟองน้ำแต่งหน้ารูปไข่จากวัตสัน

หลายคนน่าจะชอบใช้ของในวัตสัน รวมถึงฟองน้ำแต่งหน้าวัตสัน รีวิวก็เยอะไม่แพ้ตัวอื่นเลยทุกคน ราคาที่ไม่แพงมาก แถมซื้อมาเพียง 1 ได้ถึง 2 ชิ้นเลยด้วย เนื้อนุ่มเกลี่ยง่ายเป็นทรงรูปไข่

ฟองน้ำแต่งหน้าทรงไหนเหมาะกับคุณมากที่สุด แล้วต่างกันยังไง ใครจะใช้ต้องรู้

หลายคนน่าจะรู้จักเจ้าตัวฟองน้ำแต่งหน้ากันอยู่แล้ว แต่รู้หรือไม่ ฟองน้ำมีมากมายหลายประเภทมากและแต่ละประเภทมีวิธีการใช้ที่แตกต่างกันออกไปแล้วแต่รูปหน้าของแต่ละคน ใครอยากรู้แล้วตามมาดูกันเลย

1. ฟองน้ำยอดฮิต ฟองน้ำทรงไข่ ซึ่งฟองน้ำแต่งหน้าทรงไข่จะใช้งานง่ายและเหมาะสำหรับมือใหม่อีกด้วย สามารถใช้ในการแต่งหน้าได้หลายรูปแบบ ซึ่งฟองน้ำทรงไข่จะมีทั้ง ทรงไข่กลมและทรงไข่หัวตัด เช่น ฟองน้ำแต่งหน้า 3ce เป็นต้น

2. ฟองน้ำทรงพัฟแต่งหน้า เป็นรูปแบบฟองน้ำที่มาในทรงพัฟนั้นเอง นิยมใช้เช่นกัน มีหลายทรงและหลายขนาด ซึ่งสิ่งที่ทำงานให้ฟองน้ำแบบพัฟนิยมคือ ใช้งานง่าย เก็บง่ายเข้าทุกมุมของหน้า

เกร็ดความรู้ใช้ฟองน้ำแต่งหน้ายังไง ให้ไม่เกิดสิว

สาวกแต่งหน้าที่ชอบใช้ฟองน้ำแต่งหน้าต้องฟังทางนี้ ใครที่ใช้แล้วเกิดสิวบนใบหน้า จนกลัวไม่กล้าที่จะใช้ฟองน้ำอันเดิม ทำให้ใช้ฟองน้ำแต่งหน้าใช้แล้วทิ้ง ซื้อใหม่ตลอดเพราะกลัวสิว วันนี้เรามีเกร็ดความรู้เล็ก ๆ มาฝากรับรองว่าใช้ฟองน้ำแต่งหน้าได้อย่างสบายใจ ไม่กลัวสิว

1. ทำความสะอาดให้ดี การทำความสะอาดฟองน้ำเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างมาก โดยวิธีการทำความสะอาดง่ายมาก ๆ เพียงใช่น้ำยาล้างโดยเฉพาะของฟองน้ำหรือครีมอาบน้ำเด็กก็ได้เช่นกัน เพียงเท่านี้ก็ไม่เกิดสิวแล้ว

2. เก็บให้ดี อย่าให้อับชื้น หลังจากทำความสะอาดไปแล้วควรทำให้แห้งก่อนนำมาเก็บ และการจัดเก็บฟองน้ำสำคัญพอ ๆ กับการทำความสะอาด ควรเก็บแยกออกจากเครื่องสำอางเพื่อหลีกเลี่ยงการโดนเครื่องสำอางของเรา และเก็บไว้ในพื้นที่ไม่อับชื้น

เป็นอย่างไรกันบ้างคะ ฟองน้ำแต่งหน้าใช้ดี เกลี่ยง่ายเหมาะกับการแต่งหน้าสุด ๆ ซึ่งหลายคนชอบถามว่า ฟองน้ำแต่งหน้า ใช้ได้กี่ครั้ง โดยอายุใช้งานของเจ้าฟองน้ำนานถึง 3 เดือนเลยทีเดียว แต่ต้องขยันทำความสะอาดด้วยนะคะทุกคน

มาร์กหน้า เป็นหนึ่งผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับผิวหน้า ซึ่งมีการออกแบบมาเพื่อช่วยคืนความงดงามให้สู่ผิว ทั้งเรื่องของความชุ่มชื้นและความกระจ่างใส เรียกได้ว่าเป็นไอเทมลับที่เหมาะสำหรับสาว ๆ และหนุ่ม ๆ ที่อยากจะดูแลผิวพรรณให้คงความงดงามเอาไว้ ถ้าอยากหน้าฟูเหมือนดื่มน้ำครบตามจำนวนและแลดูกระจ่างใสสุขภาพผิวแข็งแรงก็ต้องห้ามมองข้ามการใช้ที่แผ่นมาร์กเลย

มาร์กหน้า เรื่องไม่ลับในการดูแลผิวหน้า ให้ดูสวยอยู่เสมอ

มาร์กหน้า ในปัจจุบันมีหลากหลายยี่ห้อให้เลือกใช้งานได้ ซึ่งจะมีทั้งมาร์กหน้าที่เหมาะกับปัญหาผิวแห้ง มาร์กที่เหมาะกับผิวแพ้ง่าย หรือปัญหาฝ้ากระ ผิวหน้าไม่สม่ำเสมอ ถ้าหากใครที่สงสัยว่า มาร์คหน้าตอนไหนดี ช่วงเวลาที่ดีที่สุดก็คือหลังจากที่ล้างหน้า เพราะว่าจะเป็นช่วงที่ผิวหน้าเปิดรับวิตามินต่าง ๆ อีกหนึ่งคำถามที่หลายคนสงสัยก็คือ มาร์คหน้าต้องล้างออกไหม คำตอบก็คือไม่จำเป็นต้องล้างออก เพราะว่าจะซึมซาบเข้าสู่ผิวได้เอง ถ้าหากใครที่กำลังมองหาแผ่นมาร์คหน้าคู่ใจเราก็มีมาแนะนำด้วย ซึ่งมีดังนี้

• แผ่นมาร์คของ ROJUKISS

สำหรับแผ่นมาร์กของแบรนด์ ROJUKISS จะมีให้เลือกใช้งานได้หลากหลายสูตรเลยทีเดียว ซึ่งจะแบ่งออกเป็นตามปัญหาผิวของแต่ละคน เป็นแผ่นมาร์กที่มาพร้อมกับความชุ่มชื้น ใส่สารสกัดจากธรรมชาติมาเป็นจำนวนมาก

• แผ่นมาร์คของ LEADERS CLINIC

อีกหนึ่งแผ่นมาร์คที่โด่งดังในอินเทอร์เน็ตเป็นอย่างมาก โดยมีหลากหลายสูตรให้เลือกใช้งาน สูตรเด็ดที่คนชอบมากคือสูตรที่ส่วนผสมจากเมืองหอยทาก ช่วยปรับสีผิวได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังทำให้ผิวดูนิ่มนวลอีกด้วย

ประโยชน์ของการ มาร์คหน้าธรรมชาติ ทำไมถึงไม่ควรมองข้าม

สำหรับประโยชน์ของการ มาร์กหน้า ก็คือเป็นผลิตภัณฑ์ที่ถ้าหาก มาร์คหน้าทุกวัน จะช่วยเติมความชุ่มชื้นให้กับผิวได้ ถ้าหากใครที่ประสบปัญหาผิวขาดน้ำ แนะนำเลยว่าการใช้แผ่นมาร์กจะช่วยแก้ปัญหาในเรื่องนี้ได้เป็นอย่างดี ที่สำคัญยังเหมาะกับสาว ๆ หรือหนุ่ม ๆ คนไหนที่อยากมีผิวหน้าที่ดูกระจ่างใสเพราะจะมีมาร์กประเภทที่เป็น มาร์คหน้าใส ซึ่งจะมีส่วนผสมของวิตามินต่าง ๆ อีกด้วย นอกจากนี้ก็ยังช่วยขจัดเซลล์ผิวที่ตายไปแล้วออก ทำให้สีผิวดูเรียบเนียนสม่ำเสมอ เป็นอีกหนึ่งเคล็ดลับความงามที่มองข้ามกันไม่ได้เลย

บทสรุปส่งท้าย

การ มาร์กหน้า เป็นอีกหนึ่งตัวช่วยที่สำคัญในการดูแลผิวหน้า ซึ่ง วิธีมาร์คหน้า ก็ทำได้ไม่ยากเลย แค่แปะผิวมาร์กตามระยะเวลาที่เหมาะสม เพียงเท่านี้ก็จะได้ใบหน้าที่ดูกระจ่างใสและชุ่มชื้น แต่ว่าในหนึ่งสัปดาห์ก็จะต้องใช้งานแผ่นมาร์กเป็นประจำถึงจะเห็นผลได้ดีที่สุด สำหรับใครที่อยากหันมาดูแลสุขภาพผิวหน้าให้ดีมากยิ่งขึ้น ถ้าเลือกแผ่นมาร์กที่เหมาะสมกับปัญหาผิวของตัวเองก็เนรมิตผิวหน้าที่ดูงดงามกันได้ไม่ยากเลย

สกินแคร์รักษาสิว เป็นเรื่องที่ใกล้ตัวกว่าที่คิด เพราะปัญหาสิวก็เป็นอีกหนึ่งปัญหากวนใจในปัจจุบัน สำหรับใครที่อยากแก้ปัญหาเหล่านี้ก็ทำได้ไม่ยากเลย แค่เพียงเลือกผลิตภัณฑ์ที่ไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้ หรือผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับปัญหาที่พบอยู่จริง ๆ เพราะว่าในตอนนี้ก็มีสกินแคร์ผลิตออกมาเป็นจำนวนมาก แต่ว่าส่วนผสมจะแตกต่างกันออกไป ดังนั้นต้องทำความเข้าใจกันให้ดีก่อนก็จะมั่นใจได้เลยว่าสกินแคร์ที่เลือกใช้จะช่วยจัดการปัญหาของหนุ่ม ๆ และสาว ๆ ทั้งหลายได้อย่างแน่นอน

สกินแคร์รักษาสิว แนะนำไอเทมเด็ดที่ครอบคลุมทุกปัญหาสิว

สกินแคร์รักษาสิว ในปัจจุบันก็มีให้เลือกซื้อไปใช้งานกันได้เป็นจำนวนมากเลยทีเดียว ดังนั้นจะต้องสังเกตจากปัญหาสิวที่พบก่อนว่าจะเหมาะสมกับการใช้งานสกินแคร์ตัวไหน โดยเราได้ทำการคัดสรร 3 ไอเทมเด็ดสำหรับการจัดการปัญหาสิวมาฝาก จะมีอะไรบ้างไปดูกันเลยดีกว่า

• TEA TREE INTENSE SERUM

สกินแคร์รักษาสิวฮอร์โมน ต้องเลือกตัวนี้ เนื่องจากจะเป็นตัวที่ช่วยลดความมันที่เป็นต้นเหตุของสิว อีกทั้งยังลดการอักเสบและป้องกันสิวเกิดใหม่อีกด้วย

• AINTEROL HIMALAYAN MICELLAR CLEANSING WATER

ใครที่มองหา สกินแคร์รักษาสิว ผิวแพ้ง่าย ต้องตัวนี้เลย เพราะว่าเป็นตัวที่เหมาะสำหรับคนที่ผิวแพ้ง่าย หน้าติดสเตรอยด์ โดยเป็นตัวที่ช่วยลดสิวผดได้เป็นอย่างดี ขจัดสิ่งสกปรกตกค้างได้อย่างหมดจด

• BLEMISH ABSOLUTE CLEAR SERUM

สำหรับ สกินแคร์รักษาสิวอักเสบ เราขอแนะนำว่าให้ใช้ตัวเซรั่มที่ช่วยลดแบคทีเรีย ซึ่งเป็นต้นเหตุของปัญหาสิว ช่วยทำให้ผิวมีสิวอุดตันลดน้อยลงกว่าเดิม

เทคนิคเลือกสกินแคร์แบบไหนให้เหมาะเป็นผิวของตัวเอง

วิธีการเลือก สกินแคร์รักษาสิว ต้องทำความเข้าใจก่อนเลยว่าแต่ละคนจะมีสภาพผิวที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งจะถูกแบ่งออกเป็นผิวแห้ง ผิวธรรมดา และผิวมัน แต่นอกเหนือจากนี้ก็ยังมีผิวผสมก็คือผสมสภาพผิวออกเป็นในแต่ละโซนของใบหน้า ดังนั้นการเลือกซื้อ สกินแคร์รักษาสิว รอยสิว ก็จำเป็นที่จะต้องเลือกให้เหมาะสมกับปัญหาผิวหน้าของแต่ละคน โดยถ้าหากเป็นคนที่ผิวธรรมดาก็จะเน้นที่การบำรุงในส่วนต่างๆที่มีปัญหาบนผิวหน้า ส่วนคนที่มีปัญหาสิวให้เน้นสกินแคร์สำหรับปัญหาสิวโดยเฉพาะ

แต่สำหรับ สกินแคร์รักษาสิวผู้ชาย ปัญหาส่วนใหญ่คือผิวมัน ดังนั้นจึงต้องมองหาสกินแคร์ที่ใช้สำหรับการรักษาสิว ซึ่งต้องมีส่วนผสมของน้ำมันที่ไม่เยอะจนเกินไป โดยอาจเลือกแบบเจลหรือแบบน้ำก็ได้ เพียงเท่านี้ก็จะได้สกินแคร์ที่เหมาะกับผิวแล้ว

บทสรุปส่งท้าย

สำหรับการเลือกซื้อ สกินแคร์รักษาสิว ก็จะต้องดูรายละเอียดต่าง ๆ ประกอบด้วย เนื่องจากสภาพผิวของแต่ละคนจะมีปัญหาที่แตกต่างกันออกไป โดยสำหรับ สกินแคร์รักษาสิว pantip การเข้าไปศึกษาข้อมูลก็เหมือนเป็นการแบ่งปันความคิดเห็นกันได้อีกแบบ ถ้าหากอยากรักษาสิวให้อยู่หมัดก็ต้องเริ่มต้นจากการเลือกใช้สกินแคร์ที่เหมาะกับปัญหาผิวของแต่ละคน หรือถ้าใครที่อยากจะมองหาสกินแคร์ที่ใช้ได้กับทุกสภาพผิวทั้งผิวปกติและผิวที่แพ้ง่ายก็สามารถเข้ามาเลือกจากสกินแคร์ที่เราแนะนำกันก็ได้นะคะ

HOW TO แก้ขอบตาคล้ำ จากการนอนดึกแบบได้ผลจริง!

หลาย ๆ คนที่ชอบนอนดึกมักจะมีปัญหาเรื่องขอบตาดำ คล้ำ และดูหม่นหมอง ไม่สดใส นั่นทำให้กลายเป็นปัญหากวนใจไม่ใช่น้อยสำหรับคนชอบโต้รุ่ง เพราะการมีรอยคล้ำที่ใต้ตานั้นอาจแก้ได้ยากและใช้เวลานาน แต่วันนี้เราจะขอมาแชร์ต่อ HOW TO แก้ขอบตาคล้ำ จากการนอนดึกแบบได้ผลจริงไม่จกตามาฝากทุกคนกัน จะมีวิธีไหนที่ทำแล้วได้ผลบ้าง ไปดูกันเลย! 

HOW TO แก้ขอบตาคล้ำ แบบง่าย ๆ ทำเองได้ที่บ้าน เห็นผลได้ภายใน 1 คืน!

“ขอบตาคล้ำ แก้ยังไง” ปัญหาโลกแตกของคนนอนดึกจะหมดไปแน่นอน เพราะวันนี้เรามาบอกต่อ HOW TO แก้ขอบตาคล้ำ แบบง่าย ๆ ทำเองได้ แบบไม่ต้องพึ่งคุณหมอ ไม่ต้องศัลยกรรม รับรองว่าได้ผลแน่นอน!
1. ชาประคบตา ถุงชาดำที่ผ่านการแช่น้ำร้อนมาแล้วอย่าเพิ่งทิ้งเด็ดขาด เพราะเราสามารถนำไปแช่เย็นและนำมาประคบบริเวณดวงตาได้ ทิ้งไว้ 10-15 นาที จะช่วยให้เลือดบริเวณดวงตาไหลเวียนได้ดีขึ้น

2. มาส์กด้วยแตงกวา เป็นวิธีเบสิกที่หลายคนเลือกทำ เพราะเป็นการ แก้ขอบตาดำ ธรรมชาติ ง่าย ๆ เพียงแค่หั่นแตงกวาเป็นแผ่นบาง ๆ แล้วนำมาวางบริเวณดวงตา สารจากแตงกวาจะช่วยฟื้นฟูผิวที่คล้ำเสียบริเวณดวงตาให้กลับมากระจ่างใส 

3. สำลีชุบน้ำเย็น นำสำลีชุบน้ำเย็นมาวางประคบบริเวณดวงตา เป็นวิธี แก้ขอบตาดำ นอนดึก ที่นอกจากจะลดรอยคล้ำแล้ว ยังทำให้รู้สึกผ่อนคลาย และที่สำคัญคือช่วย แก้ขอบตาคล้ำ ภูมิแพ้ ได้อีกด้วย

HOW TO แก้ขอบตาคล้ำ เปลี่ยนแพนด้ากลับมาเป็นคน แค่เปลี่ยนพฤติกรรม!

นอกจาก HOW TO แก้ขอบตาคล้ำ ที่เรานำมาฝากข้างต้นแล้ว การใช้ครีมบำรุงควบคู่ไปด้วยก็เป็นการแก้ ขอบตาคล้ำ ครีม ก็จะมีให้เลือกหลากหลายยี่ห้อ หรือหลายคนอาจจะเลือกเป็นครีมที่มี วิธีแก้ ขอบ ตา ดำ เซ เว่น ก็ช่วยได้ แต่อีกหนึ่งสิ่งสำคัญในการแก้ปัญหานี้ก็คือการเปลี่ยนพฤติกรรมที่อาจเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้ขอบตาคล้ำ 

ตัวอย่าง เช่น การนอนดึกเป็นเวลานานเกินไป การพักผ่อนไม่เพียงพอในแต่ละวัน หรือความเครียดที่สะสม หากคุณเปลี่ยนพฤติกรรมเหล่านี้ได้ อาจทำให้การ แก้ขอบตาดำศัลยกรรม คุณจากแพนด้าให้กลายเป็นคนแบบไม่ต้องถึงมือหมอเลยก็ว่าได้   

บทส่งท้าย HOW TO แก้ขอบตาคล้ำ แก้ได้ง่าย ๆ บอกลาหมีแพนด้าไปเลย

สำหรับ HOW TO แก้ขอบตาคล้ำ ที่เรานำมาแชร์ต่อนั้น แนะนำว่าให้ทำควบคู่ไปกับการหมั่นดูแลรักษาสุขภาพของตนเองด้วย เพราะการที่เราละเลยสุขภาพไปนั่นก็เป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ดวงตาของเราอ่อนล้า ขอบตาคล้ำ ครีมก็เอาไม่อยู่ถ้าเราไม่ดูแลตัวเอง เมื่อเวลาผ่านไปนานก็ทำให้เกิดรอยคล้ำบริเวณดวงตาได้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น หากดูแลสุขภาพอย่างสม่ำเสมอและนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ ก็จะช่วยให้การแก้ขอบตาคล้ำมีประสิทธิภาพที่ดีนั่นเอง

HOW TO ฉีดน้ำหอม ยังไงให้หอมฟุ้ง ติดทน จนคนข้าง ๆ เหลียว

ต้องยอมรับว่าเรื่องกลิ่นนั้นกลายเป็นสิ่งสำคัญอันดับต้น ๆ ของการออกไปพบปะผู้คน โดยเฉพาะถ้าในวันนั้นเป็นเดทแรกหรือเป็นนัดสำคัญ การมีกลิ่นตัวที่ดีนั้นย่อมสร้างความทรงจำแรกที่ดีแน่นอน และน้ำหอมก็กลายเป็นตัวเอกที่จะช่วยให้คุณมีกลิ่นตัวที่ดีได้ แต่ปัญหาคือแล้วจะฉีดยังไงให้หอมฟุ้ง ติดทน ไม่จางหายไปก่อนระหว่างเดินทาง วันนี้เราจึงจะมาบอก HOW TO ฉีดน้ำหอม ให้หอมฟุ้งจนคนข้าง ๆ เหลียวกัน! 

HOW TO ฉีดน้ำหอม ให้กลิ่นหอมติดตัวตลอดวัน แค่ 5 จุดนี้!

สำหรับ HOW TO ฉีดน้ำหอม ให้กลิ่นติดตัวนั้น ก็มีเคล็ดไม่ลับที่หลายคนอาจจะยังไม่รู้มาก่อน นั่นก็คือการเลือกจุดที่เหมาะสมในการฉีดนั่นเอง วิธีนี้จะช่วยให้กลิ่นน้ำหอมติดอยู่กับร่างกายของเราได้นานขึ้น โดยการ ฉีดน้ำหอม 5 จุด ดังต่อไปนี้
1. ผม หลาย ๆ คนที่ ฉีดน้ำหอม กลิ่นไม่ติด นั่นเพราะว่าอาจจะลืมจุดนี้ไป แต่จริง ๆ แล้วเส้นผมจะดูดซับกลิ่นน้ำหอมไว้ได้ดีมากจนทำให้ส่งกลิ่นหอมฟุ้งได้แบบเนียน ๆ ทุกเวลาที่เราเคลื่อนไหว

2. หลังใบหู ถัดมาจากผมเล็กน้อยก็ต้องเป็นหลังใบหู เป็นจุดที่สำคัญไม่แพ้กัน หากมีกลิ่นหอมฟุ้งบริเวณนี้จะเพิ่มเสน่ห์ให้ตัวคุณได้แบบเท่าตัว ที่สำคัญคือกลิ่นจะติดทนตรงจุดนี้มากพอสมควร 

3. ต้นคอ หากถามว่าปกติแล้ว ฉีดน้ำหอมตรงไหน ผู้หญิง หลาย ๆ คนก็คงจะเลือกตอบถึงจุดนี้ เป็นจุดฮิตที่ใครก็ต้องฉีดกัน เพราะเป็นจุดที่ใกล้กับชีพจร ทำให้กลิ่นติดทนนานมากขึ้น

4. ข้อมือ อีกจุดชีพจรที่ต้องฉีดเลยก็คือบริเวณข้อมือ จุดนี้จะเป็นจุดที่กระจายความหอมได้ดีมาก 

5. ข้อพับแขน ถ้าอยากรู้ว่าจะ ฉีดน้ำหอม ยัง ไง ให้คน อื่น ได้ กลิ่น ก็ลองจุดนี้ให้ได้สักครั้ง เพราะขอบอกเลยว่าข้อพับแขนเป็นจุดที่จะกระจายความหอมไปทั่วร่างกายได้ไม่แพ้จุดอื่นเช่นกัน

หอมติดทนหรือฉุนจนเหม็น?! HOW TO ฉีดน้ำหอม ไม่ให้ฉุนจนโป๊ะ!

ไม่ว่าคุณจะเลือก ฉีดน้ำหอม จุดไหน ก็ไม่สำคัญเท่ากับความเหมาะสมของปริมาณการฉีดน้ำหอม เพราะหลายคนที่อยากจะ ฉีดน้ำหอม ติดทน ตามร่างกายเป็นเวลานาน ๆ อาจจะเลือกใช้วิธีฉีดย้ำ ๆ จุดต่าง ๆ เยอะจนเกินไปโดยไม่สนใจว่าอาจจะทำให้เกิดกลิ่นฉุน ทำให้ส่งกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์มากกว่ากลิ่นหอมฟุ้ง 

เพราะฉะนั้น HOW TO ฉีดน้ำหอม ไม่ให้ฉุนนั้นก็คือการ ควบคุมปริมาณในการฉีด ไม่ให้มากหรือน้อยเกินไป ซึ่งการดูว่าควรใช้ปริมาณเท่าไหร่ ให้สังเกตจากความเข้มข้นของกลิ่นน้ำหอมนั้น ๆ หากเข้มข้นมากก็ควรใช้ในปริมาณที่ลดลง หากเข้มข้นน้อยให้เพิ่มปริมาณมากขึ้น จึงจะเป็น วิธีฉีดน้ำหอมที่ถูกต้อง 

HOW TO ฉีดน้ำหอม ให้หอมฟุ้งติดทนนาน ประทับใจตั้งแต่แรกพบ!

สำหรับ HOW TO ฉีดน้ำหอม ให้หอมฟุ้งติดทนที่เรานำมาฝากนั้น จะเห็นได้ว่านอกจากจะให้ความสำคัญในเรื่องของการเลือกจุดหรือตำแหน่งที่เหมาะสมในการฉีดแล้ว สิ่งสำคัญอีกหนึ่งอย่างก็คือการ  ฉีดน้ำหอม ไม่ให้ฉุน ด้วยการควบคุมปริมาณในการฉีดให้พอดีนั่นเอง เพียงเท่านี้เดทแรกหรือนัดสำคัญของคุณก็จะเต็มไปด้วยความทรงจำที่ดีอย่างแน่นอน

เท่ไม่หยุด เล็บเจลผู้ชาย ไอเดียแต่งเล็บสุดเท่ที่ผู้ชายก็ทำได้

เล็บเจลผู้ชาย เป็นอีกหนึ่งเทรนด์ที่กำลังมาแรงในปัจจุบันโดยไม่ใช่แค่เพียงผู้หญิงเท่านั้นที่สามารถทำเล็บกันได้ ผู้ชายก็สามารถทำเล็บให้ออกมาดูเท่กันได้อีกด้วยเพียงต้องเลือกลายให้เข้ากับสไตล์ของตัวเองเท่านั้น ยิ่งในช่วงนี้รสนิยมกับความเป็นเอกลักษณ์ของแต่ละคนก็จะเป็นสิ่งที่ช่วยเพิ่มเสน่ห์ให้กับแต่ละท่านได้อีกด้วย โดยเราจะพาไปดูกันว่าถ้าหากผู้ชายคนไหนที่อยากเพ้นท์เล็บจะมีลวดลายไหนที่น่าสนใจในปีนี้บ้าง

แนะนำลวดลาย เล็บเจลผู้ชาย สุดชิค ที่มาแรงในปี 2022

ลวดลาย เล็บเจลผู้ชาย ในแต่ละลายที่ได้รวบรวมมาแนะนำในบทความนี้นั้นจะเป็นลวดลายหลากหลายสไตล์ที่ช่วยเสริมลุคให้กับแต่ละท่านอีกทั้งยังมีความโดดเด่นเป็นอย่างมาก สำหรับใครที่กำลังมอง ลายเล็บ ชิ คๆ จะต้องรู้สึกถูกใจอย่างแน่นอน โดยจะมี ลายเล็บเท่ๆ ลายไหนบ้างเราก็ได้รวมมาเป็นไอเดียให้กับทุกท่านแล้ว

เพ้นท์ลายแนวสตรีท ลายแรกที่เราแนะนำก็คือ เล็บเจลเท่ๆ แบบแนวสตรีทที่ใช้สีขาวและสีดำเป็นหลัก โดยจะใส่ลวดลาวของเปลวไฟแต่ใช้เป็นสีเงินที่มีกลิสเตอร์เล็กน้อยในการลงสี ส่วนเล็บอื่นๆจะเลือกเป็นสีพื้นดำและสีขาวที่มีลายสีดำที่ช่วยเพิ่มความชิคให้มากกว่าเดิม 

เพ้นท์ลายชิคๆคูลๆ อีกหนึ่งลายที่ผู้ชายบางท่านอาจจะชอบก็คือลายแบบชิคๆที่มีสีสันเล็กน้อย โดยจะใช้ทั้งสีขาวดำและสีสันสดใส ซึ่งอาจใส่รายละเอียดเพิ่มด้วยการใส่รูปการ์ตูนอนิเมะหรือตัวอักษรภาษาญี่ปุ่นเพิ่มเข้าไปในบางเล็บ

เพ้นท์ลายเท่ๆ การ เพ้นเล็บผู้ชายเท่ๆ อาจเลือกใช้สีดำเป็นสีพื้นแล้วต้องกับลวดลายสีขาวเพียงเล็กน้อยให้เป็นรุปทรงต่างๆไม่ว่าจะเป็นเส้นตรง สามเหลี่ยม ลายจุดเล็กๆ ก็เป็นการช่วยเพิ่มความน่าค้นหาให้ได้อีกด้วย 

ผู้ชายสไตล์ไหนที่สามารถเพ้นท์เล็บเจลได้บ้าง?

ในการทา เล็บเจลผู้ชาย บางท่านต้องมาพร้อมกับคำถามอย่างแน่นอนว่าจะต้องเป็นคนสไตล์ไหนที่จะสามารถเพ้นท์เล็บตนเองได้ ซึ่งจริงๆแล้วการที่ ผู้ชายทาเล็บ 2021 หรือในปี 2022 ซึ่งเป็นยุคที่เปิดกว้างและเป็นยุคที่เทรนด์ศิลปะเข้าถึงผู้คนได้อย่างหลากหลายทำให้การทาเล็บในผู้ชายไม่ใช่เรื่องที่แปลกแล้ว โดยเฉพาะ ผู้ชายทาเล็บเกาหลี ซึ่งเป็นอีกหนึ่งประเทศที่ได้รับความนิยมกันเป็นอย่างมากโดยเฉพาะในหมู่ไอดอลเนื่องจากช่วยเสริมภาพลักษณ์ให้ดูชิคดูเท่มากยิ่งขึ้นอีกด้วย ดังนั้นในบทความ ผู้ชายทำเล็บ pantip จึงมีการบอกเอาไว้อย่างชัดเจนเลยว่าจะเป็นผู้ชายเท่ๆ ผู้ชายที่ดูชิค ผู้ชายสายหวานก็สามารถทาเล็บกันได้ทั้งหมด 

บทสรุปส่งท้าย

สำหรับการทา เล็บเจลผู้ชาย จะเป็นในประเทศไทยหรือในต่างประเทศก็ล้วนไม่ใช่เรื่องผิดและเป็นอีกหนึ่งกระแสความนิยมที่มาแรงเป็นอย่างมาก ดังนั้นใครที่ชื่นชอบและอยากเสริมภาพลักษณ์ของตนเองให้ดูเท่กว่าเดิมก็ต้องอย่ามัวแต่กลัวว่าคนอื่นจะมองไม่ดีเพราะโลกในยุคปัจจุบันเปิดกว้างแล้วใครชอบทาเล็บก็ต้องไปลองกันดูอาจจะติดใจก็ได้

การดูแลตัวเองในยุคปัจจุบันสำคัญสำหรับทุกคนเลย ไม่ว่าจะเป็นเพศไหนก็ตาม การมีใบหน้าใสบ่งบอกถึงการดูแลตัวเองและการมีสุขภาพผิวที่ดี การดูแลให้ผิวหน้ามีสุขภาพดีของก็แตกต่างกันไปตามสภาพผิวของแต่ละคนมีทั้ง ผิวหน้าธรรมดา ผิวแห้ง ผิวมัน ผิวผสม และผิวบอบบางแพ้ง่าย หากเรารู้จักผิวหน้าของตัวเองจะช่วยให้ดูแลสภาพผิวได้ดีขึ้น ปรับพฤติกรรมและเลือกสกินแคร์ที่เหมาะสม รวมถึงอาหารการกินที่ส่งผลต่อการรักษาอย่างมาก วันนี้มาดูกันค่ะว่าสภาพผิวไหนต้องดูแลตัวเองยังไง 

HOW TO ดูแลสุขภาพผิวให้ หน้าใส ตามสภาพผิวของเรา 

1. ผิวธรรมดา (NORMAL SKIN) ใครที่ผิวธรรมดาถือว่าเป็นคนที่โชคดีเลยค่ะ เพราะสภาพผิวจะไม่มีปัญหามากนัก เป็นผิวที่ไม่แห้งและไม่มันจนเกินไป เรียกว่าไม่มีข้อบกพร่องเลย ผิวหน้าใสไร้สิวเป็นทุนเดิมอยู่แล้วสามารถดูแลตัวเองตามหลักทั่วไปเน้นการบำรุงที่เพิ่มความชุ่มชื้นของผิวโดยการใช้มอยเจอร์ไรเซอร์และบำรุงผิวไปตามสภาพอากาศ อาหารการกินไม่มีอะไรต้องหลีกเลี่ยงแต่เน้นรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ครบ 5 หมู่เพื่อรักษาสภาพผิวให้หน้าใสต่อไป



2. ผิวแห้ง (DRY SKIN) คนที่มีผิวหน้าแห้งมักจะมีสภาพผิวที่แตก ลอก ผิวหน้าจะหมองคล้ำได้ง่าย และมีรูขุมขนที่เล็กมาก ๆ การปรับสภาพผิวให้ดีขึ้นทำได้โดยการใช้มอยเจอร์ไรเซอร์สูตรที่มีความเข้มข้น การล้างหน้าหลีกเลี่ยงใช้ผลิตภัณฑ์ที่เกิดฟอง หรือประเภท AHA – BHA เนื้อสกินแคร์ที่เหมาะสมทำให้หน้าใสครีมและออยล์ หลีกเลี่ยงการใช้สครับและแอลกอฮอล์ ควรดื่มน้ำปริมาณมากในแต่ละวัน เพราะจะช่วยรักษาผิวจากข้างใน และรับประทานอาหารที่เป็นไขมันดี อย่างเช่น อโควาโด้ ตระกูลถั่ว 



3. ผิวมัน (OLI SKIN) ถือว่าเป็นผิวที่จะทำให้เกิดสิวมากกว่าสภาพผิวอื่น ๆ เพราะมีรูขุมขนที่กว้าง มีสิวอุดตันและสิวหัวดำขึ้นได้ง่าย การเลือกสกินแคร์ที่เหมาะสมควรเป็นเนื้อเจล น้ำ และโลชั่น หลีกเลี่ยงการใช้น้ำมันและเนื้อครีม เพราะหากทำความสะอาดได้ไม่ดีจะทำให้เกิดสิวอุดตันได้ ปรับพฤติกรรมการกินด้วยการหลีกเลี่ยงอาหารที่มีไขมันส่วนเกิน รับประทานธัญพืช หรือเรียกว่าอาหารสุขภาพจะทำให้สุขภาพหน้าดีขึ้นไม่ผลิตไขมันส่วนเกิน และเน้นรับประทานผลไม้



4. ผิวผสม ( COMBINATION SKIN) ที่มีทั้งความแห้งและความมันเกิดขึ้นบนใบหน้า ส่วนมันจะเป็น T-ZONE การเลือกใช้สกินแคร์นั้นค่อนข้างยากกว่าสภาพผิวอื่น ๆ ต้องแยกบำรุงระหว่างส่วนที่ผิวแห้งจะใช้ผลิตภัณฑ์ที่เป็นเนื้อครีมและออยล์ หากเป็น T-ZONE เลือกใช้เป็นเนื้อเจลและน้ำ และหลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่ปราศจากน้ำมันและน้ำหอม ควรเลือกกินผักผลไม้ที่อิ่มน้ำ เช่น แตงกวา มะเขือเทศ แตงโม เพื่อปรับสมดุลให้ผิวและอยากทำหน้าใสในแต่ละวันต้องดื่มน้ำเยอะ ๆ 



5. ผิวบอบบาง (SINESITIVE SKIN) เป็นผิวที่ไวต้องความร้อนและแสงแดด จะเกิดผื่นแดง คัน และมีความระคายเคืองอย่างมาก สภาพผิวปรับเปลี่ยนตามสภาพอากาศผิวมันเมื่อฤดูร้อนและผิวแห้งเมื่อถึงฤดูหนาว หากเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ควรทดสอบอาการแพ้ก่อนเสมอที่บริเวณใต้ท้องแขน เลือกผลิตภัณฑ์ที่มี สารสกัดจากชาเขียว ดอกคาโมไมล์ หรือเวชสำอางจะปลอดภัยที่สุด เลือกอาหารที่มีส่วนประกอบของไฟเบอร์ ต้านการอักเสบและต้านอนุมูลอิสระ เช่น ตระกูลเบอร์รี่ ปลาทะเล ถั่ว น้ำมันมะกอก เป็นต้น 



อยากหน้าใส อย่าลืมปรับพฤติกรรมให้ติดเป็นนิสัย 

จากข้อมูลการปรับพฤติกรรมอยากหน้าใสกินอะไรและดูแลผิวหน้าวิธีทำให้หน้าขาวใสตามสภาพผิว ทุกคนรู้มั้ยคะว่าสิ่งที่ต้องทำให้เป็นนิสัยถ้าอยากจะหน้าใสทำไง? ไม่ว่าจะมีสภาพผิวเป็นอย่างไร สิ่งสำคัญก็คือการทาครีมกันแดดนั้นเองค่ะ ครีมกันแดดสามารถเลือกตามสภาพผิวของแต่ละคนได้เลย แต่วิธีการทาให้ได้ปริมาณ 2 ข้อนิ้วถึงจะมีประสิทธิภาพค่ะ การทากันแดดมีข้อดีมากมาย ไม่ทำให้หน้าเราเหี่ยวย่นก่อนวัยอันควร เพราะฉะนั้นดูแลผิวหน้าใสแล้วอย่าลืมทากันแดดกันด้วยนะคะ