ครีมกันแดดทาหน้า ไอเทมที่ทุกคนจะต้องมีติดกระเป๋า อย่างครีมกันแดด ไม่ว่าจะฤดูกาลไหน ยิ่งเป็นเมืองแล้วละก็เป็นไอเทมที่ควรมีติดกระเป๋าเอาไว้เลย แต่ครีมกันแดดแบบไหนดีที่สุดในตอนนี้ แล้วเราควรเลือกใช้แบบไหนดี หลายคนน่าจะสงสัย และอยากรู้กันแล้วใช่ไหมคะ วันนี้ขอเปิดวาร์ปไอเทมครีมกันแดดติดทนนาน 24 ชม ราคาสบายกระเป๋ามาฝาก รับรองว่าถูกใจแน่นอน

ครีมกันแดดทาหน้า เปิดวาร์ป 3 ครีมกันแดดที่หาซื้อง่าย ราคากันเอง!

ครีมกันแดดทาหน้ายี่ห้อไหนดี ตัวไหนมาแรง ตามมาดูกันเลยดีกว่า ครีมกันแดดยี่ห้อไหนดี เราขนมารีวิวให้แล้ว

“ รีวิว ครีมกันแดดผิวกาย ” คลิกที่นี่

1. Biore UV Aqua Rich Watery Essence SPF50+ PA++++

ใครที่กำลังตามหา ครีมกันแดดติดทนนาน ต้องตัวนี้เลย ทั้งติดทน กันน้ำ ที่สำคัญบางเบาอีกด้วย ราคาเริ่มต้นที่ 129 บาทเท่านั้น ขนาดพกพาสะดวกสุด

2. Garnier Super UV Sunscreen Cream SPF 50+ PA+++

ครีมกันแดดทาหน้าไม่เหนียว ต้องตัวนี้เลย ราคาประหยัดสุดสำหรับคนงบน้อย หาซื้อง่ายมีทั้งแบบซองและแบบหลอด ปกป้องตลอดทั้งวัน และยังทำให้หน้าดูสว่าง สดใสขึ้นอีกด้วย ทางแบรนด์ออกมา 3 สูตรมีทั้งแบบแมทท์และแบบสูตรธรรมชาติ

3. ANESSA perfect UV sunscreen skincare milk SPF50+ PA++++

ถ้าถามว่า ครีมกันแดด แบรนด์ เคาน์เตอร์ ยี่ห้อไหนดี หนีไม่พ้นแบรนด์ที่มาแรงที่สุดตอนนี้ ครีมกันแดดทาหน้าในเซเว่น ปกป้องขั้นสุด ใครที่หากันแดด ประสิทธิภาพสูงต้องตัวนี้เลย ราคาเริ่มต้นที่ 420 บาทนะคะทุกคน ถือว่าราคาคุ้มกับคุณภาพเลย

เทคนิคเลือกใช้ครีมกันแดดยังไงให้ปัง ติดทนนาน 24 ชั่วโมง ครีมกันแดดทาหน้า 

รู้หรือไม่ ก่อนซื้อ ครีมกันแดดทาหน้ายี่ห้อไหนดีที่สุด 2024 ควรรู้ก่อนว่าคุณเหมาะกับครีมกันแดดแบบไหน ครีมกันแดดทาหน้าผิวแพ้ง่าย

• สำหรับผิวมัน แนะนำ ครีมกันแดด ทาหน้า ไม่เหนียว บางเบาจะดีที่สุด ยิ่งถ้าเป็นครีมกันแดดที่สามารถคุมมันได้ด้วย นั่นแหละจะเหมาะกับคุณที่สุด 
• สำหรับผิวแพ้ง่าย แนะนำเป็นครีมกันแดดที่ไม่มีส่วนผสมเยอะ ปราศจากน้ำหอม หรือแต่งกลิ่นต่าง ๆ ที่สำคัญควรเลือกสูตรที่บางเบา ธรรมชาติที่สุด

“วิธีการใช้ครีมกันแดด ป้องกันฝ้าและจุดด่างดำ” คลิกที่นี่

ฮาวทูนอนหลับง่าย สูตรลับหลับสบาย หลับง่ายฝันดีตลอดทั้งคืน ใครหลับยากต้องลอง!

อาการหลับยาก นอกไม่หลับหลายคนน่าจะเคยเจอแน่นอน ซึ่งอาการนอนหลับยากนั้นเกิดจากหลายสาเหตุ เกี่ยวกับความเครียด ความเคยชินของร่างกาย หรือแม้กระทั่งเกิดจากช่วงวัยอีกด้วย ซึ่งเชื่อว่าปัญหาเหล่านี้กวนใจทุกคนอย่างมาก ยิ่งทำงานมาเหนื่อย ๆ แต่กลับนอนไม่หลับ ทำให้พักผ่อนไม่พอ เกิดโรคซ้อนอีกด้วย

วันนี้เราจึงนำเทคนิคการนอนหลับสบาย ฮาวทูนอนหลับง่าย ๆ ที่คุณเองก็สามารถที่จะทำได้ที่บ้าน ที่ทำงาน หรือแม้จะเป็นกิจกรรมประจำวันก็สามารถที่จะทำร่วมไปได้อีกด้วย สำหรับใครที่นอนหลับยาก ตามมาดูกันได้เลยว่าสาเหตุและวิธีที่ทำให้หลับสบายมีอะไรบ้าง !

3 เคล็ดลับ ฮาวทูนอนหลับ ที่ไม่ลับอีกต่อไป ทำง่าย ๆ ที่บ้านคุณก็ทำได้

สำหรับเพื่อน ๆ คนไหนที่นอนหลับไม่สนิท ทำอย่างไรก็นอนไม่หลับ ต้องการที่จะหลักแต่ร่างกายกลับตื่นตลอดเวลา วันนี้มีเคล็ดลับมาบอกทุกคนแล้ว ฮาวทูนอนหลับที่สามารถทำเองง่าย ๆ ที่บ้าน ไม่ต้องพึ่งยานอนหลับ งั้นอย่ารอช้า ไปดูกันเลย!

1. กินกล้วยช่วยให้นอนหลับสบาย การกินอาหารถือว่าสำหรับกับการนอนอย่างมาก ซึ่งแนะนำให้ลองทานกล้วย โดยกล้วยจะทำให้คุณนอนหลับเร็วมากขึ้น บอกลาการนอนหลับยาก และยังช่วยลดความเครียดในสมองอีกด้วย 

2. ออกกำลังบ้าง นอนหลับเร็วแน่นอน การออกกำลังเป็นวิธีที่ง่าย มากที่สุดและทุกคนก็สามารถที่จะทำได้อีกด้วย เมื่อออกกำลังกายเสร็จ คุณจะนอนหลับสบายทันที ไม่มีการนอนหลับๆตื่นๆแน่นอน

3. จัดเวลาให้เป็นนิสัย เป็นสิ่งที่สำคัญอย่างมาก การจัดตารางเวลาให้ร่างกายชินกับการนอน ตามเวลาจะช่วยให้คุณนอนเป็นเวลาและยังช่วยให้พักผ่อนเพียงพอ เป็นการฝึกร่างกายระยะยาวอีกด้วย เป็นการจัดเวลาว่านอนหลับกี่ชั่วโมง นอนเวลาไหน ขอแนะนำวิธีนี้มากที่สุด!

นอนไม่หลับเกิดจากอะไรกันแน่ ฮาวทูนอนหลับเร็ว ช่วยได้จริงหรือไม่

ถึงแม้จะมีฮาวทูนอนหลับได้ง่าย แต่ควรที่จะรู้ว่าอาการนอนไม่หลับของแต่ละคน มีสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการเหล่านี้แตกต่างกัน ซึ่งเราไปดูกันเลยดีกว่า ว่าการนอนไม่หลับสาเหตุมาจากอะไรบ้าง 

1. การนอนหลับของผู้สูงอายุ อาการนอนไม่หลับ มักเกิดขึ้นเมื่อคุณอายุมากขึ้น ยิ่งอายุมาก การนอนไม่หลับจะมีมากกว่าเดิม 

2. อาการนอนไม่หลับของคนท้อง เรามักจะได้ยินคนที่ท้องหรือคุณแม่ทั้งหลาย บ่นว่านอนไม่หลับ หลับยาก เกิดจากสาเหตุฮอร์โมนในร่างกายเปลี่ยนแปลง

3. ความเครียด อาการคนนอนหลับยากส่วนใหญ่ ปัจจุบันอาการนอนไม่หลับเกิดจากความเครียด จากการเรียน การทำงานต่าง ๆ ส่งผลให้นอนหลับยากนั้นเอง 

ฮาวทูนอนหลับด้วยวิธีง่าย ๆ บอกลาปัญหาหลับยากไปได้เลย !

การนอนหลับยากเกิดจากหลายสาเหตุอย่างที่กล่าวไปข้างต้น แต่หลาย ๆ คนมักจะพึ่งไปที่ยานอนหลับและคำถามที่เจอบ่อยมากที่สุด “นอนไม่หลับกินยาอะไรดี” ซึ่งแนะนำว่า ลองทำตามฮาวทูนอนหลับสบายที่เราแนะนำก่อนจะดีกว่าการพึ่งยา เพราะการที่คุณพึ่งยาจะทำให้เกิดอาการติดยานอนหลับ ส่งผลไม่ดีต่อร่างกายในอนาคตอีกด้วย 

การพักผ่อน ทำจิตใจให้สบายก็เป็นส่วนนึงที่จะช่วยให้คุณนอนหลับสบาย ฉะนั้น เตรียมบอกลาปัญหานอนไม่หลับไปได้เลย 

HOW TO ขาเล็ก ขาเรียว ง่าย ๆ สไตล์คนไม่มีเวลา ต้องจัด!

ถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่มีความฝันอยากจะมีขาเล็ก ขาเรียวแบบดาราบ้าง แต่แค่คิดก็เหนื่อยแล้วเพราะกลับจากทำงานก็หมดแรงจะออกกำลังกาย กว่าจะพักให้หายเหนื่อยก็ถึงเวลานอนเสียแล้ว ลองมาฟังทางนี้ก่อน! วันนี้เราจะมาบอกต่อ HOW TO ขาเล็ก ด้วยท่าออกกำลังกายง่าย ๆ สไตล์คนไม่มีเวลา รับรองว่าแต่ละท่านั้นไม่ยาก แค่วันละไม่กี่นาทีก็สามารถเปลี่ยนขาหมูให้กลายเป็นขาเรียวสวยแบบที่ใฝ่ฝันได้ จะมีท่าอะไรบ้าง ไปดูกัน!

HOW TO ขาเล็ก เรียวสวย แค่ 3 ท่าก่อนนอน แบบไม่ง้ออุปกรณ์!

ใครที่กำลังบ่นว่า อยากขาเล็ก น่องเล็ก ทำไงดี วันนี้ต้องมาอ่าน HOW TO ขาเล็ก แบบง่าย ๆ ทำได้แบบไม่ต้องใช้อุปกรณ์ ไม่ต้องเข้า FITNESS เราขอแนะนำท่าออกกำลังกาย 3 ท่านี้ ที่คุณสามารถทำได้ทั้งก่อนนอนหรือหลังจากตื่นนอนได้แบบง่าย ๆ เหมาะกับคนที่ไม่ค่อยมีเวลา

1. ท่านอนคว่ำและตีขา วิธีขาเล็ก ท่าแรก เป็นท่าที่สบาย ๆ ทำได้ง่าย เพียงแค่นอนคว่ำราบไปกับพื้น จากนั้นงอขาเข้ามาหาลำตัว ส้นเท้าตั้งตรง และตีขาทั้งสองข้างสลับกันไปมา ท่านี้จะช่วยกระชับน่องและต้นขาได้ดี

2. ท่านอนหงายยกขา เคล็ดลับขาเล็ก เรียว ท่าต่อมา สิ่งที่ต้องทำมีเพียงการนอนหงายและเหยียดขาตั้งตรง คล้าย ๆ กับการทำมุม 90 องศาค้างไว้ อาจจะเพิ่มสกิลด้วยการแยกขาทั้งสองข้างออกจากกัน ทำสลับกับท่าขาชิดไปเรื่อย ๆ จะช่วยกระชับบริเวณต้นขาได้ดีมากขึ้น

3. ท่านอนตะแคงยกขา สำหรับท่านี้เป็นท่าที่ ผู้หญิงขาเล็ก หลายคนบอกต่อกันมาว่าทำแล้วได้ผล เพียงแค่อยู่ในท่านอนตะแคง และยกขาขึ้น หากนอนตะแคงฝั่งซ้ายจะต้องยกขาขวาขึ้นและค้างไว้ จากนั้นจึงสลับข้างไปมา ท่านี้จะช่วยกระชับบริเวณต้นขาและน่องขาได้

HOW TO ขาเล็ก ไม่ได้มีแค่ท่าออกกำลังกาย การกินก็สำคัญ!

หลายคนอาจจะเจอกับดักของการลดต้นขา อย่างเช่นการคิดว่า อยากขาเล็ก วิ่ง และออกกำลังกายหนัก ๆ เท่านั้นจึงจะได้ผล หรือแย่ที่สุดคือการคิดจะพึ่ง ยาขาเล็ก หรือการใช้ยา ฉีดขาให้เล็ก โดยหารู้ไม่ว่าวิธีเหล่านี้อาจส่งผลเสียต่อสุขภาพ แท้จริงแล้วสิ่งที่สำคัญที่สุดในการลดต้นขา นั่นก็คือการเลือกกินนั่นเอง

คุณอาจจะสงสัยว่าถ้า อยากขาเล็ก กิน อะไรจึงจะดีที่สุด เราจึงขอยกตัวอย่างอาหารที่ควรเลี่ยงสำหรับคนอยากขาเล็ก เช่น ของทอด อาหารไขมันสูง หรือเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลสูง หากคุณลดและเลี่ยงอาหารเหล่านี้ได้ ก็จะช่วยให้การออกกำลังกายท่าต่าง ๆ นั้นมีประสิทธิภาพมากขึ้นอย่างแน่นอน

HOW TO ขาเล็ก เรียวสวยด้วยตัวคุณเอง ฉบับประหยัดงบ!

สำหรับใครที่ได้อ่าน HOW TO ขาเล็ก เรียวสวยของเราไปแล้ว ก็อยากให้ลองนำไปปรับใช้ให้เหมาะสมกับชีวิตประจำวันของตนเองดูก่อน หากเริ่มชินกับการออกกำลังกายท่าง่าย ๆ อยากขาเล็ก วิ่งเบา ๆ ก็ช่วยได้ แล้วก็สามารถเพิ่มระดับความยากของการออกกำลังกายขึ้นอีกได้ แต่ที่สำคัญจะต้องไม่ลืมที่จะควบคุมในเรื่องของอาหารการกินเป็นอันขาด เท่านี้คุณก็จะได้เป็นสาวขาเล็กเรียวสวยสมใจแล้ว!

วิธีทำให้สูงขึ้นอยู่กับหลายปัจจัยแต่สิ่งที่มีผลมากที่สุดนั่นคือพันธุกรรม หากใครที่มีพันธุกรรมสูงอัตราการเพิ่มความสูงจะมากถึง 4 นิ้วต่อปี ต่างจากปกติที่จะสูงเพิ่มขึ้น 2 นิ้วต่อปี ช่วงวัยพัฒนาความสูงเริ่มที่อายุ 1 ขวบจนถึงช่วงวัยรุ่นเลยค่ะ การเพิ่มความสูงในเพศหญิงจะเพิ่มขึ้นในแต่ละปี แต่ในเพศชายส่วนมากจะสูงขึ้นเมื่อสิ้นสุดช่วงวัยรุ่น หากใครที่ต้องการเพิ่มความสูงให้ตัวเองการปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิตก็เป็นอีกทางที่จะเพิ่มส่วนสูงได้ วันนี้เราจะมาแนะนำ 6 วิธีที่จะเพิ่มความสูงถึงแม้จะเกินวัยมาแล้วก็ตาม !

HOW TO 6 วิธีทำให้สูง โดยเริ่มได้ง่าย ๆ ด้วยการปรับพฤติกรรมตัวเอง

วิธีการปรับพฤติกรรมและสร้างนิสัยที่จะทำให้เรามีความสูงที่เพิ่มขึ้นได้ นอกจากนั้นยังมอบสุขภาพที่ดีให้เราได้อีกด้วยค่ะ มาดูวิธีทำอย่างไรให้ตัวสูงกันเลยค่ะ

1. อาหารดีทุกอย่างก็จะดี ไม่ว่าจะช่วงอายุเท่าไหร่จะได้รับสารอาหารที่ดีจะส่งผลต่อการพัฒนาในช่วงวัยต่าง ๆ ได้ดีเสมอ การพัฒนาและส่งเสริมการสร้างกระดูกสำคัญอย่างมากค่ะ การรับประทานอาหารที่มีสารอาหารโปรตีน เกลือแร่ และวิตามินดี ได้แก่ ผลไม้สด ผักสด ธัญพืช โปรตีน นม ไข่แดง และปลาในน้ำทะเล เป็นต้น และหากเป็นไปได้ควรหลีกเลี่ยงอาหารที่จะส่งผลต่อการหยุดพัฒนาของกระดูกอย่างเช่น น้ำตาล ไขมันทรานส์และไขมันอิ่มตัว



2. ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ จะช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อและกระดูกให้มีพัฒนาการที่ดีขึ้น ออกกำลังกายมากกว่า 1 ชั่วโมงจะช่วยให้ร่างกายส่งเสริมการผลิตฮอร์โมนการเจริญเติบโต (HGH) ได้ดีที่สุด หากต้องการเพิ่มความสูงควรเน้นการออกกำลังกายเพื่อสร้างความแข็งแรงให้กับทุกส่วน เช่น วิดพื้นหรือซิทอัพ การออกกำลังกายแบบยืดหยุ่น เช่น โยคะ และการออกกำลังกายแอโรบิค เช่น การกระโดดเชือก ปั่นจักรยาน สำหรับใครถนัดการเล่นกีฬา บาสเกตบอล วอลเลย์บอล และว่ายน้ำ เป็นตัวเลือกที่ดีค่ะ 



3. ใช้อาหารเสริมช่วยกระตุ้นได้ หากใครที่มีปัญหาพัฒนาการช้ากว่าผู้คนในวัยเดียวกัน หรือมีการผลิตฮอร์โมน HGH ได้ไม่ดี วิธีทำให้ตัวสูงขึ้นด้วยการใช้วิตามิน D เพื่อกระตุ้นการผลิตฮอร์โมนจะเป็นตัวช่วยส่งเสริมได้ในวัยเด็กที่ขาดและผู้สูงอายุที่มีอาการหดตัวของกล้ามเนื้อ ทั้งนั้นต้องปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อเลือกชนิดและปริมาณตามความเหมาะสมแต่ละบุคคล



4. นอนหลับดีมีชัยไปกว่าครึ่ง การนอนหลับพักผ่อนที่ดีเป็นอีกวิธีวิธีที่ทำให้สูงขึ้น เพราะระหว่างหลับร่างกายจะหลั่งฮอร์โมน HGH ในแต่ละวัยชั่วโมงการพักผ่อนที่เพียงพอก็แตกต่างกัน อย่างเช่น วัยทารก 14-17 ชม. วัยเด็กเล็ก 1-5 ปี ควรนอนให้ได้ 11-14 ชม. เด็กอายุ 6-11 ปี 11 ชม. วัยรุ่นถึงวัยทำงาน 8-9 ชม. และผู้สูงอายุ 65 ปีขึ้นไป 7-8 ชม.



5. เพิ่มความสูงด้วยโยคะ หากใครที่ออกกำลังกายเป็นทุนเดิมหรืออาจจะอยากออกกำลังกายเพื่อสุขภาพที่ดี โยคะเป็นอีกตัวเลือกที่ดี เพราะสามารถสร้างกล้ามเนื้อ จัดตำแหน่งร่างกาย และยืดตัวอยู่เสมอ จะส่งผลให้ตัวสูงขึ้นเพราะกล้ามเนื้อที่ขยายนั่นเองค่ะ 



6. ปรับบุคลิกช่วยเพิ่มความสูง การมีพฤติกรรมการนั่ง นอน เดิน ที่ไม่ดีอาจส่งผลให้เราดูเตี้ยกว่าความเป็นจริง การทำท่าทางงอตัวบ่อย ๆ อาจจะทำให้กล้ามเนื้อเคยชินและปรับเปลี่ยนเพื่อรองรับการงอตัวของเราได้ค่ะ การนั่งหลังค่อมก็เช่นกันจะทำให้กระดูกสันหลังงอตัว และส่งผลต่อการใช้ชีวิตทำให้บุคลิกดูไม่ดี ดังนั้นยืดอกนั่งหลังตรง จะช่วยให้คุณดูดีมีความมั่นใจและดูเป็นคนตัวสูงได้ค่ะ 



วิธีทำให้สูง ได้ไม่ยากเริ่มจากตัวเอง

จาก 6 พฤติกรรมที่ทำยังไงให้ตัวสูง หากใครปรับพฤติกรรมแล้วทำยังไงก็ไม่สูง อย่าลืมอีกหนึ่งที่เป็นปัจจัยสำคัญก็คือฮอร์โมนในร่างกายของแต่ละคนที่แตกต่างกันไปด้วยนะคะ 6 วิธีทำให้สูงที่กล่าวมา ทำให้ร่างกายเราแข็งแรงให้ชีวิตด้วยสุขภาพที่ดีไม่ว่ายังไงก็ออกมาดูดีแน่นอนค่ะ และที่สำคัญการสร้างความมั่นใจให้ตัวเองจะทำให้ภาพรวมของบุคลิกของเราดูดีขึ้น 100% ค่ะ 

How to ควบคุมน้ำหนัก ปลอดภัยได้ผลจริง ทำได้ใน 7 วัน

ในช่วงล็อกดาวน์ที่หลายคนต้องทำงานอยู่บ้าน เพื่อหลีกเลี่ยงสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด – 19 นอกจากความกังวลเกี่ยวกับการติดเชื้อ หลายคนยังกังวลเรื่องน้ำหนักตัวที่เพิ่มขึ้นอีกด้วย เนื่องจากไม่สามารถออกกำลังกายได้อย่างเต็มที่ เพราะมีแต่กิน ทำงานและนอน จนทำให้น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ดังนั้น เพื่อเป็นการควบคุมน้ำหนักเราจึงมี How to ควบคุมน้ำหนัก แบบเร่งด่วนที่สามารถทำได้ใน 7 วันมาฝากกัน 

How to ควบคุมน้ำหนัก ด้วย 3 เทคนิค ลดน้ำหนักเร่งด่วน 7 วัน 

คนส่วนใหญ่คิดว่าเป็นเรื่องยากที่จะ ลดน้ำหนักเร่งด่วน 7 วัน แต่ความจริงแล้วการควบคุมน้ำหนักภายใน 1 สัปดาห์สามารถทำได้จริง เพียงแต่ต้องทราบ How to ควบคุมน้ำหนัก อย่างถูกต้อง ทั้งนี้เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อสุขภาพ และช่วยให้การควบคุมน้ำหนักทำได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ซึ่งมี วิธีลดน้ำหนักด้วยตัวเอง 3 หลักการใหญ่ ๆ ดังต่อไปนี้

1) ให้ความสำคัญกับการกินอาหาร ซึ่งเป็นหลักการสำคัญในการ How to ควบคุมน้ำหนัก ที่สำคัญที่สุด หากต้องการ ลดน้ำหนักเร่งด่วน 7 วัน แนะนำให้กินอาหารเช้าจำพวกธัญพืช 1 ถ้วยกับ
อัลม่อนด์ หรือจะกินโยเกิร์ตรสธรรมชาติคู่กับผลไม้ตระกูลเบอรี่ก็ได้ เนื่องจากธัญพืช โยเกิร์ต และผลไม้ย่อยง่ายและดีต่อระบบทางเดินอาหาร ขณะเดียวกันให้หลีกเลี่ยงอาหารไขมันสูง เช่น ข้าวเหนียวหมูปิ้ง ปาท่องโก๋กับกาแฟ เป็นต้น

มื้อกลางวันให้เน้นอาหารโปรตีนสูง แคลอรี่ต่ำ เช่น อกไก่ สลัดผัก ไข่ต้ม ปลา และผักสดหรือต้มก็ได้ เพราะย่อยง่ายสบายท้องอีกทั้งยังสามารถ ลดน้ำหนักเร่งด่วน 7 วัน อีกด้วย แต่หากระหว่างวันคุณรู้สึกหิว สามารถกินของว่างจำพวกผลไม้ตระกูลเบอรี่ ธัญพืชอบกรอบ หรืออัลมอนด์ เพียง 2 มื้อต่อวัน เพื่อทำให้อิ่มทองและไม่อ้วน สำหรับมื้อเย็น วิธีลดน้ำหนักด้วยตัวเอง ที่ดีที่สุด คือ กินอาหารที่มีแคลอรี่ต่ำ
ให้พลังงานน้อย เน้นรับประทานผักและผลไม้สด และควรกินอาหารก่อนเข้านอนอย่างน้อย 4 – 6 ชั่วโมง

อย่างไรก็ตาม ช่วง How to ควบคุมน้ำหนัก ควรลดอาหารโซเดียมสูง เนื่องจากจะทำให้ร่างกายเกิดการบวมได้ง่าย แม้ว่าเกลือและน้ำปลาจะทำให้อาหารรสชาติดีแต่ก็มีผลเสียต่อสุขภาพเช่นกัน เช่นเดียวกับน้ำตาลที่นอกจากจะส่งผลต่อสุขภาพแล้ว ยังเป็นแหล่งของคาร์โบไฮเดรตซึ่งจะถูกเปลี่ยนไปเป็นไขมันสะสมทำให้อ้วนได้ในที่สุด

2) ออกกำลังกายสม่ำเสมอ ได้แก่ การกระโดดเชือกง่าย ๆ ที่บ้านเพียงวันละ 20 นาที จะช่วย ลดน้ำหนักเร่งด่วน 7 วัน ได้อย่างเห็นผลทันตา แต่หากใครไม่สะดวกที่จะกระโดดเชือก อาจเลือกออกกำลังกายด้วยคาร์ดิโอวันละ 20 นาที เพื่อกระตุ้นให้ร่างกายเกิดการเผาผลาญ หรือจะฝึกโยคะเพื่อคลายกล้ามเนื้อ บรรเทาอาการปวดเมื่อย กระชับกล้ามเนื้อ ช่วยเรื่องการไหลเวียนของเลือดและระบบขับถ่าย

3) นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ วิธีลดน้ำหนักด้วยตัวเอง ที่ถูกต้องจะต้องพักผ่อนอย่างน้อย 8 ชั่วโมง เพื่อรักษาระดับฮอร์โมนในร่างกาย ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดและควบคุมการสะสมไขมัน อันจะช่วย ลดน้ำหนักเร่งด่วน 7 วัน ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

How to ควบคุมน้ำหนัก และ วิธีลดน้ำหนักด้วยตัวเอง ไม่พึ่งยา

หากคุณกำลังหา How to ควบคุมน้ำหนัก ที่ให้ผลลัพธ์ ลดน้ำหนักเร่งด่วน 7 วัน ลองนำหลักการสำคัญทั้ง 3

อย่างไปใช้อันประกอบด้วย ให้ความสำคัญกับการกินอาหาร การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ และที่สำคัญพักผ่อนให้เพียงพออย่างน้อยวันละ 8 ชั่วโมง เพียงเท่านี้ก็สามารถกลับมามีหุ่นสวยโดยไม่พึ่งยาซึ่งเป็น วิธีลดน้ำหนักด้วยตัวเอง ที่ทำได้ง่าย ๆ 

ภาพจาก https://www.wongnai.com/articles/tweaks-for-weight-loss

https://www.top10.in.th

https://hd.co.th/yoga-mind-body-far-away-disease

https://www.shopback.co.th